“ท่านกำลังฝันจะย้ายประเทศอยู่หรือไม่ เราขอนำเสนอเหตุผลว่าเพราะเหตุใดราชอาณาจักรสวีเดน บางทีอาจเป็นเป้าหมายที่ดี”..บลา บลา บลา
ผมในฐานะของผู้ที่อยู่ในประเทศสวีเดนมาแล้ว 30 ปี เวลานี้บุตรสาวที่เกิดตรงนั้นก็ยังอาศัยอยู่ ไม่ได้ย้ายตามบิดามาไทย
ถามคำถามว่า ราชอาณาจักรสวีเดนดีไหม เป็นสังคมที่น่าอยู่หรือไม่
ตอบได้ว่า เป็นประเทศที่น่าอยู่มากมาย ระบบรัฐสวัสดิการที่ดูแลคนตั้งแต่เกิดจวบจนกระทั่งตาย ถือเป็นระบบที่ใช้ได้ผล แล้วก็ดีเป็นลำดับต้นๆของโลกก็ว่าได้ เหมือนกับ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ประเทศฟินแลนด์ แล้วก็ไอซ์แลนด์ ที่สำคัญคือเป็นประเทศประชาธิปไตยสุดๆเท่าที่จะมีได้ประเทศหนึ่งในโลก
เมื่อ fb ประเทศสวีเดนออกมาอย่างนั้น ภายใน 22 ชั่วโมงที่โพสต์นี้ออกไป ก็มีคนเข้าไปกดไลค์ถึง 5.1 หมื่นครั้ง มีคอมเมนต์เข้ามา 8.1 พันครั้ง แล้วก็แชร์ออกไปถึง 3.6 หมื่นครั้ง
นับว่า fb ประเทศสวีเดนบรรลุผลสำเร็จสำหรับการโฆษณาชวนเชื่อ ยิ่งมองจากคอมเมนต์ที่เข้ามาที่จำนวนมากยกย่อง แล้วก็แน่ๆว่าหลายชิ้นวาดหวังจะเก็บกระเป๋าบินกันไปเลย
Fb ประเทศสวีเดน พูดเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียว
แล้วก็นี่คือสิ่งที่น่าสงสัยว่า ที่โพสต์มาอย่างนั้นในวันนี้ ปรารถนาอะไร
เด็กๆที่ดูแล fb คิดอะไรกันอยู่หรือ
ประเทศสวีเดนน่าอยู่ – ใช่
แต่ว่าการเข้าไปนั้น –ยากมากมาย
ถ้าหากไม่มีคุณลักษณะเข้ากับเงื่อนไขของการเข้าไปอาศัยแล้ว ไม่มีจังหวะได้เข้าประเทศนะครับ
ช่วยใคร่ครวญจุดนี้ด้วย
ประเทศสวีเดนไม่ได้ให้คนใดกันเข้าไปกล้วยๆ
การเข้าประเทศสวีเดนได้ หลักกว้างๆก็คือ เข้าไปอย่างนักเดินทาง อันนี้ไม่ยาก ซื้อทัวร์ไปง่ายที่สุด แต่ว่าจะอยู่เกินกว่าตารางท่องเที่ยวไม่ได้ หรือเข้าไปแบบเด็กนักเรียน แต่ว่าสำเร็จการศึกษาหรือเลิกเรียนเมื่อไร จำเป็นต้องกลับไทย นอกจากแต่ว่าระหว่างเรียนมีแฟนหรือคู่แต่งงานที่อยู่ตรงนั้น ก็สามารถขอทำเรื่องแปลงวีซ่าจากเด็กนักเรียนไปเป็นผู้อยู่อาศัยแล้วก็ดำเนินงานได้
แต่ว่ากับการเข้าไปทำมากิน อาศัยอย่างยั่งยืน อันนี้มีเงื่อนไขแล้ว
สำคัญๆการขอไปอยู่ได้ก็คือ มีแฟนหรือคู่แต่งงานที่อยู่ตรงนั้น หรือขอตามพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าไป (แต่ว่าอายุจำเป็นต้องไม่เกิน 21 ปี) หรือเป็นผู้ที่อาศัยอยู่แล้วในประเทศยุโรปเหนือ (มี 5 ประเทศ) หรืออยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (มี 27 ประเทศ) ก็เลยย้ายไปได้ หรือมีหน่วยงาน บริษัท ร้านค้าในประเทศสวีเดนยืนยัน ทำเรื่องขอเราเข้าไปเป็นคนงาน
อีกอันที่มีหมายถึงขอเข้าไปเป็นผู้หลบภัย
นี่คือเงื่อนไขที่เป็นจริง ไม่ใช่ว่านึกจะบินก็บินไปได้
อันนี้ fb ประเทศสวีเดนควรแจงให้ชัด จะมาแค่อ้างว่ามีรายละเอียดอยู่ในเวปอื่นๆของสถานทูต เข้าไปหาอ่านเองได้ แค่นี้ไม่ได้ ควรเสนอแล้วก็ให้ข้อมูลที่แจ่มชัดแล้วก็ถูกต้องให้มากยิ่งกว่าการพูดแค่ “ฝัน” จะย้ายประเทศ คิดถึงประเทศสวีเดน
วันนี้ประเทศสวีเดนมีคนในวัยทำงาน ว่างงานถึง 10% คิดเป็นจำนวนคนถึง 549,300 คน อาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา คนว่างงานมากขึ้นจากอาทิตย์ก่อนถึง 3% ยิ่งสมัยโควิด ยิ่งแย่
ในประเทศสวีเดน รัฐบาลโดนโจมตีมากมาย เรื่องหางานให้คนทำไม่ได้
ด้านการเมือง พรรคขวาจัด Sverigedemokraterna ที่ต้านชาวต่างชาติแบบสุดลิ่มทิ่มแทงประตู ใหญ่เป็นชั้น 3 ของประเทศ คะแนนไล่ๆกันมากับพรรคสังคมประชาธิปไตย Socialdemokraterna แล้วก็พรรคอนุรักษ์นิยม Moderaterna
แล้วเขาจะให้คนแห่กันเข้าไปเพราะเหตุใด
ถ้าหากแค่เกลียดรัฐบาลคุณประยุทธ์ แล้วย้ายไปตรงนั้น จะหนีเสือปะไอ้เข้ นะครับ
มีคนใดกันเล่าหรือยังนะครับว่า หลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้แนวนโยบายของรัฐบาลประเทศสวีเดนไม่ได้ช่วยเหลือให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศมากมายเลย ได้โอกาสใคร่ครวญจากเอกสารสำหรับสมัคร ถ้าหากมีช่องโหว่ให้ไล่ ให้ส่งกลับแล้ว เขาจะไม่รอช้า ผู้ที่เข้าไปขอหนีภัยเยอะแยะ รอฟังการพิเคราะห์เป็นปีๆอยู่แบบไม่มีอนาคตและไม่มองเห็น “ความฝัน” ในชีวิต ที่ถูกจับตัวขึ้นเครื่องบินส่งกลับประเทศก็มีเยอะแล้ว ต่อให้ว่าคนจำนวนไม่น้อยถูกส่งกลับไปประเทศที่เป็นเผด็จการ แล้วก็ตำรวจตรงนั้นรอรับตัวเพื่อยัดเข้าคุก หรือเอาไปประหารชีวิต ก็เกิดเป็นข่าวเสมอ ชาวต่างชาติที่เข้าไปอาศัยแล้วเป็นปีๆหรือเกิน 10 ปี หลบๆหลบซ่อนๆหนีตำรวจหัวซุนเป็นหลายหมื่นคนในประเทศเพราะว่าไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยในประเทศ เวลานี้มีแต่ว่าเพิ่มขึ้น เกินแสนคนแล้วมั้งนะครับ
ผมไม่ได้เจตนากัดกันความสบายใน “ความฝัน” ของคนใดกันที่จะออกนอกประเทศ
ที่เขียนมาทั้งหมดทั้งปวง ก็กล่าวเรื่องประเทศสวีเดนประเทศเดียว ที่ผมมีความเห็นว่าเด็กๆที่ทำ fb ประเทศสวีเดน ไม่ได้ให้ภาพที่รอบด้านกับผู้พึงพอใจ นำไปสู่ความเข้าใจผิดอย่างมากมายมหาศาล
ถ้าหากไม่เตือนกันแล้ว “ความฝัน” ที่วาดหวังไว้จะเป็น “ฝันร้าย” ที่เคราะห์ซ้ำบาปซัดเชียวละครับ